ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง
(Constructionism)
WAJAM ( https://www.slideshare.net/ssuser605b96/constructivism-43272082 ) ได้รวบรวมทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง(Constructionism) ไว้ดังนี้ ทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม (Constructionism) หรือทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
เป็นทฤษฎีการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นผู้สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม
มีสาระสำคัญที่ว่า ความรู้ไม่ใช่มาจากการสอนของครูหรือผู้สอนเพียงอย่างเดียว
แต่ความรู้จะเกิดขึ้นและถูกสร้างขึ้นโดยผู้เรียนเอง การเรียนรู้จะเกิดขึ้นได้ดีก็ต่อเมื่อผู้เรียนได้ลงมือกระทำด้วยตนเอง
(Learning by doing) มีพื้นฐานอยู่บนกระบวนการการสร้าง 2 กระบวนการด้วยกัน
สิ่งแรก คือ
ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยการสร้างความรู้ใหม่ขึ้นด้วยตนเอง
ความรู้จะเกิดขึ้นจากการแปลความหมายของประสบการณ์ที่ได้รับ
หากเป็นประสบการณ์ตรงที่ผู้เรียนเป็นผู้กระทำด้วยตนเองจะทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย
สิ่งที่สอง คือ
กระบวนการการเรียนรู้จะมีประสิทธิภาพมากที่สุด
หากกระบวนการนั้นมีความหมายกับผู้เรียนคนนั้น
ดังนั้น ในกระบวนการสอนของครูจึงควรให้ผู้เรียนได้สร้างองค์ความรู้จากสิ่งที่เขามีอยู่และพัฒนาต่อยอดไปด้วยตัวของเขาเอง
การสอนแบบครูเป็นศูนย์กลางควรจะต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับเนื้อหาสาระและเน้นที่ตัวผู้เรียนเป็นหลัก
การสอนแบบยัดเยียดความรู้จะทำให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้น้อยกว่าการให้ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเอง
Wordpress ( https://kwamwang.files.wordpress.com/2012/01/constructivism.doc ) ได้รวบรวมทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructionism) ไว้ดังนี้ Constructivism เชื่อว่าความจริงอยู่ในหัวสมองของคนมากกว่าที่จะมีที่อยู่ที่อื่น
คนสร้างสิ่งที่เรียกว่าความจริงหรืออย่างน้อยก็สร้างความหมายของความจริงขึ้นมาบนพื้นฐานจากประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละคน
หรือเกี่ยวข้องกับการสร้างความรู้ของมนุษย์จากประสบการณ์ จากโครงสร้างในหัวสมอง
(ภาพในใจ) และจากความเชื่อซึ่งใช้แปลความหมายเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ
ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร หัวสมองสร้างโลกส่วนตัวของแต่ละคนขึ้นมา
ดังนั้นไม่มีโลกของใครที่จะเหมือนจริงที่สุด
ไม่มีความจริงและไม่มีแก่นแท้ที่เป็นรูปธรรม Constructivism เชื่อว่าหัวสมอง (mind)เป็นเครื่องมือและส่วนประกอบที่สำคัญที่จะแปลความหมายของเหตุการณ์
วัตถุ และทัศนะในโลกของความเป็นจริง
สิ่งที่หัวสมองรับรู้และเข้าใจประกอบกันเป็นฐานความรู้เฉพาะส่วนตัวของแต่ละคน
โลกส่งผ่านทุกอย่างมากลั่นกรองยังหัวสมองก่อนที่จะออกมาเป็นสิ่งที่รับรู้และเข้าใจ
กล่าวโดยสรุป สิ่งสำคัญของความเชื่อแนว Constructivism คือ แต่ละคนรับรู้และเข้าใจโลกภายนอกค่อนข้างจะแตกต่างกัน
ขึ้นอยู่กับประสบการณ์เกี่ยวกับโลกภายนอกนั้นและความเชื่อเกี่ยวกับประสบการณ์เหล่านั้น
ข้อเปรียบเทียบบรรยากาศการเรียนแบบปกติกับการเรียนตามแนวทฤษฎี Constructivism
Brooks และ
Brooks (1993: 17: อ้างถึงใน Dani Baylor ,
Pavel Samsonov and Noel Smith ; Online)
ได้เปรียบเทียบให้เห็นบรรยากาศในการสอนตามแนวการสร้างองค์ความรู้ (constructivist
classroom) และการสอนแบบปกติ (traditional classroom)
การสอนตามแนวการสร้างองค์ความรู้(constructivist
classroom)
|
การสอนแบบปกติ
(traditional
classroom)
|
1. หลักสูตรมีลักษณะเริ่มจากส่วนใหญ่ทั้งหมดไปสู่ส่วนย่อย
โดยเน้นความคิดรวบยอดใหญ่
|
1. หลักสูตรมีลักษณะเริ่มจากส่วนย่อยไปสู่ส่วนใหญ่ทั้งหมด
โดยเน้นทักษะพื้นฐาน
|
2. การให้นักเรียนคิดตั้งคำถามขึ้นเองเป็นสิ่งที่มีคุณค่า
|
2. การเรียนการสอนยึดตามหลักสูตร เป็นสิ่งที่มีคุณค่าสูง
|
3. กิจกรรมในหลักสูตรขึ้นอยู่กับแหล่งข้อมูลเบื้องต้นและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้การลงมือปฏิบัติ
|
3. กิจกรรมในหลักสูตรขึ้นอยู่กับตำราและแบบฝึกหัด
|
4. นักเรียนได้รับการมองว่าเป็นนักคิด โดยการใช้ทฤษฎีเกี่ยวกับโลก
|
4. นักเรียนได้รับการมองว่าเป็นแผ่นกระดานที่
|
5. ครูโดยทั่วไปมีลักษณะเป็นผู้มีปฏิสัมพันธ์
|
5. ครูโดยทั่วไปมีลักษณะเผด็จการและบอกข้อมูลให้แก่นักเรียน
|
6. ครูค้นหามุมมองของนักเรียน เพื่อให้เข้าใจการแสดงความคิดรวบยอดของนักเรียนสำหรับใช้ในการเรียนต่อไป
|
6. ครูมุ่งที่จะค้นหาคำตอบที่ถูกต้อง
เพื่อทำให้เกิดความเที่ยงตรงต่อการเรียนรู้ของนักเรียน
|
7. การประเมินการเรียนรู้ของนักเรียน จะผสมผสานอยู่ในระหว่างการสอน
และเกิดขึ้นตลอดเวลาจากการสังเกตของครูในเรื่องการทำงานของนักเรียน
การแสดงนิทรรศการของนักเรียน และจากแฟ้มผลงาน
|
7. การประเมินการเรียนรู้ของนักเรียน จะแยกออกจากการสอนและเกิดขึ้นเกือบจะ
ตลอดช่วงของการทดสอบ
|
8. นักเรียนทำงานเป็นกลุ่มเป็นพื้นฐาน
|
8. นักเรียนทำงานตามลำพังเป็นพื้นฐาน
|
เลิศฤทธิ์ ด่านกระโทก ( https://kruaum.wordpress.com ) ได้รวบรวมทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructionism)
ไว้ดังนี้ Constructionism เป็นทฤษฎีทางการศึกษาที่พัฒนาขึ้นโดย Professor
Seymour Papert แห่ง M.I.T. (Massachusette
Institute of Technology) ทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม (Constructionism) หรือทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
เป็นทฤษฎีการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นผู้สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
ประสบการณ์ใหม่
/ ความรู้ใหม่
+ ประสบการณ์เดิม / ความรู้เดิม
= องค์ความรู้ใหม่
ซีมัวร์ พาร์เพิร์ท (Seymour
Papert) ได้ให้ความเห็นว่า ทฤษฎีการศึกษาการเรียนรู้
ที่มีพื้นฐานอยู่บนกระบวนการการสร้าง 2 กระบวนการด้วยกัน
สิ่งแรก คือ
ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยการสร้างความรู้ใหม่ขึ้นด้วยตนเอง
ไม่ใช่รับแต่ข้อมูลที่หลั่งไหลเข้ามาในสมองของผู้เรียนเท่านั้น
โดยความรู้จะเกิดขึ้นจากการแปลความหมายของประสบการณ์ที่ได้รับ
สังเกตว่าในขณะที่เรา สนใจทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่อย่าง
ตั้งใจเราจะไม่ลดละความพยายามเราจะคิดหาวิธีการแก้ไขปัญหานั้นจนได้
สิ่งที่สอง คือ กระบวนการการเรียนรู้จะมีประสิทธิภาพมากที่สุด หากกระบวนการนั้นมีความหมายกับผู้เรียนคนนั้น
สิ่งที่สอง คือ กระบวนการการเรียนรู้จะมีประสิทธิภาพมากที่สุด หากกระบวนการนั้นมีความหมายกับผู้เรียนคนนั้น
จากที่กล่าวมาสามารถสรุปให้เป็นหลักการต่างๆที่มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
ได้ดังนี้
1)
หลักการที่ผู้เรียนได้สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง หลักการเรียนรู้ตามทฤษฎี Constructionism คือ การสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดยให้ผู้เรียนลงมือประกอบกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเองหรือได้ปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมภายนอกที่มีความหมาย
ซึ่งจะรวมถึงปฏิกิริยาระหว่างความรู้ในตัวของผู้เรียนเอง
ประสบการณ์และสิ่งแวดล้อมภายนอก
การเรียนรู้จะได้ผลดีถ้าหากว่าผู้เรียนเข้าใจในตนเอง มองเห็นความสำคัญในสิ่งที่เรียนรู้และสามารถเชื่อมโยงความรู้ระหว่างความรู้ใหม่กับความรู้เก่า(รู้ว่าตนเองได้เรียนรู้อะไรบ้าง)
และสร้างเป็นองค์ความรู้ใหม่ขึ้นมา
และเมื่อพิจารณาการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นในการเรียนการสอนโดยปกติที่เกิดขึ้นในห้องเรียนนั้นสามารถจะแสดงได้ดังรูป
ความรู้
ครู ——-> ผู้เรียน
ครู ——-> ผู้เรียน
2)
หลักการที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้
โดยครูควรพยายามจัดบรรยากาศการเรียนการสอน
ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรมการเรียนด้วยตนเองโดยมีทางเลือกในการเรียนรู้ที่หลากหลาย
(Many
Choice) และเรียนรู้อย่างมีความสุขสามารถเชื่อมโยงความรู้ระหว่างความรู้ใหม่กับความรู้เก่าได้
ส่วนครูเป็นผู้ช่วยเหลือและคอยอำนวยความสะดวก
3)
หลักการเรียนรู้จากประสบการณ์และสิ่งแวดล้อม
หลักการนี้เน้นให้เห็นความสำคัญของการเรียนรู้ร่วมกัน (Social
value) ทำให้ผู้เรียนเห็นว่าคนเป็นแหล่งความรู้อีกแหล่งหนึ่งที่สำคัญ
การสอนตามทฤษฎี Constructionism เป็นการจัดประสบการณ์เพื่อเตรียมคนออกไปเผชิญโลก
ถ้าผู้เรียนเห็นว่าคนเป็นแหล่งความรู้สำคัญและสามารถแลกเปลี่ยนความรู้กันได้
เมื่อเขาจบออกไปก็จะปรับตัวได้ง่ายและทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ
4)
หลักการที่ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือการรู้จักแสวงหาคำตอบจากแหล่งความรู้ต่างๆด้วยตนเองเป็นผลให้เกิดพฤติกรรมที่ฝังแน่นเมื่อผู้เรียน “เรียนรู้ว่าจะเรียนรู้ได้อย่างไร
(Learn how to Learn)”
สรุป
ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง Constructivism เป็นทฤษฎีที่ว่าด้วยการสร้างความรู้ ได้มีการเปลี่ยนจากเดิมที่เน้นการศึกษาปัจจัยภายนอกมาเป็น สิ่งเร้าภายใน ซึ่งได้แก่ ความรู้ความเข้าใจ หรือกระบวนการรู้คิด กระบวนการคิด (Cognitive processes) ที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้
จากผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยภายในมีส่วนช่วยทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย
และความรู้เดิมมีส่วนเกี่ยวข้องและเสริมสร้างความเข้าใจ สามารถสรุปเป็นสาระสำคัญได้ดังนี้
1) ความรู้ของบุคคลใด คือ
โครงสร้างทางปัญญาของบุคคลนั้นที่สร้างขึ้นจากประสบการณ์ในการคลี่คลายสถานการณ์ที่เป็นปัญหาและสามารถนำไปใช้เป็นฐานในการแก้ปัญหาหรืออธิบายสถานการณ์อื่นๆ
ได้
2) นักเรียนเป็นผู้สร้างความรู้ด้วยวิธีการที่ต่าง ๆ กัน
โดยอาศัยประสบการณ์และโครงสร้างทางปัญญาที่มีอยู่เดิม
ความสนใจและแรงจูงใจภายในตนเองเป็นจุดเริ่มต้น
3) ครูมีหน้าที่จัดการให้นักเรียนได้ปรับขยายโครงสร้างทางปัญญาของนักเรียนเอง
ภายใต้ ข้อสมมติฐานต่อไปนี้
3.1) สถานการณ์ที่เป็นปัญหาและปฏิสัมพันธ์ทางสังคมก่อให้เกิดความขัดแย้งทางปัญญา
3.2) ความขัดแย้งทางปัญญาเป็นแรงจูงใจภายในให้เกิดกิจกรรมการไตร่ตรองเพื่อขจัดความขัดแย้งนั้น
และจะจบลงด้วยความแจ่มชัดที่สามารถอธิบายสถานการณ์ดังกล่าว สามารถแก้ปัญหาได้
ตลอดจนได้เรียนรู้และพึงพอใจกับผลที่ได้รับ
3.3) การไตร่ตรองบนฐานแห่งประสบการณ์และโครงสร้างทางปัญญาที่มีอยู่เดิมภายใต้การมี ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม กระตุ้นให้มีการสร้างโครงสร้างใหม่ทางปัญญา
3.3) การไตร่ตรองบนฐานแห่งประสบการณ์และโครงสร้างทางปัญญาที่มีอยู่เดิมภายใต้การมี ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม กระตุ้นให้มีการสร้างโครงสร้างใหม่ทางปัญญา
ที่มา
WAJAM. (https://www.slideshare.net/ssuser605b96/constructivism-43272082). [ออนไลน์] เข้าถึงเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2561.
Wordpress. ( https://kwamwang.files.wordpress.com/2012/01/constructivism.doc ). [ออนไลน์] เข้าถึงเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2561.
เลิศฤทธิ์ ด่านกระโทก. ( https://kruaum.wordpress.com ). [ออนไลน์] เข้าถึงเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2561.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น