ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติ (Natural Unfoldment)
ทิศนา
เเขมมณี (2555 : 45) ได้รวบรวบรวมเกี่ยวกับทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติ (Natural
Unfoldment) ไว้ว่า นักคิดคนสำคัญในกลุ่มนี้คือ รุสโซ (Rousseau) ฟรอเบล (Froebel) และเพสตาลอสซี (Pestalozzi) นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อดังนี้
ความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้
1) มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความดี และการกระทำใดๆ
เกิดขึ้นจากแรงกระตุ้นภายในของมนุษย์ (good-active)
2) ธรรมชาติของมนุษย์มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรุ้และพัฒนาตนเองหากได้รับเสรีภาพใน
การเรียนรู้ มนุษย์ก็จะสามารถพัฒนาตนเองไปตามธรรมชาติ
3) รุสโซมีความเชื่อว่าเด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเล็กๆ เด็กมีสภาวะของเด็ก
ซึ่งแตกต่างไปจากวัยอื่น การจัดการศึกษาให้เด็กจึงควรพิจารณาระดับอายุเป็นหลัก
4) รุสโซมีความเชื่อว่าธรรมชาติคือแหล่งความรู้สำคัญ
เด็กจะได้เรียนรู้ไปตามธรรมชาติคือ การเรียนรู้จากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
จากผลของการกระทำของตนมิใช่การเรียนจากหนังสือ หรือจากการพูดบรรยาย
5) เพสตาลอสซี มีความเชื่อว่าคนมีธรรมชาติปนกันใน 3 ลักษณะ คือ
5.1) คนสัตว์ ซึ่งมีลักษณะเปิดเผย เป็นทาสของกิเลส
5.2) คนสังคม มีลักษณะที่จะเข้ากับสังคมคล้อยตามสังคมและ
5.3)คนธรรม ซึ่งเป็นลักษณะของการรู้จักรับผิดชอบชั่วดีคนจะต้องมีการพัฒนาใน 3 ลักษณะดังกล่าว
6) เพสตาลอสซี เชื่อว่าการใช้ของจริงเป็นสื่อในการสอน
จะช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดี
7) ฟรอเบล เชื่อว่า ควรจะให้การศึกษาชั้นอนุบาลแก่เด็กเล็กอายุ 3-5 โดยเด็กเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง
8) ฟรอเบลเชื่อว่า การเล่นเป็นการเรียนรู้ที่สำคัญของเด็ก
หลักการจัดการศึกษา / การสอน
1) การจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้แก่เด็กจะต้องมีความแตกต่างไปจากการจัดให้ผู้ใหญ่
เนื่องจากเด็กมีสภาวะที่ต่างไปจากวัยอื่นๆ
2) การจัดการศึกษาให้แก่เด็กควรยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง
ให้เสรีภาพแก่เด็กที่จะเรียนรู้ตามความต้องการและความสนใจของตน
เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้อย่างอิสระ
3) ลักษณะการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับเด็ก
คือ การจัดให้เด็กได้เรียนรู้จากธรรมชาติ ได้แก่
3.1) ให้เด็กได้เล่นอย่างอิสระ
3.2) ให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง
3.3) ให้เด็กได้เรียนจากของจริง และประสบการณ์จริง
3.4) ให้เด็กได้เรียนรู้จากผลของการกระทำของตน
4) การจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้เด็กจะต้องคำนึงถึงความแตกตางระหว่างบุคคลและความพร้อมของเด็ก
สุรางค์
โคว้ตระกูล (2545) ได้รวบรวมถึงทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติ (Natural
Unfoldment) ไว้ว่านักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อว่า
ธรรมชาติคือแหล่งเรียนรู้สำคัญ เด็กควรจะได้เรียนรู้ไปตามธรรมชาติ
การใช้ของจริงเป็นสื่อในการสอนจะช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดี
การเล่นเป็นการเรียนรู้ที่สำคัญของเด็ก เด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเล็กๆ
เด็กมีสภาวะของเด็ก ซึ่งแตกต่างไปจากวัยอื่น
การจัดการศึกษาให้เด็กจึงควรพิจารณาระดับอายุเป็นหลัก
การจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้เน้นการจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้แก่เด็กจะต้องมีความแตกต่างไปจากการจัดให้ผู้ใหญ่
และยึดเด็กเป็นศูนย์กลางให้เสรีภาพแก่เด็กได้เรียนรู้ตามความต้องการและความสนใจของตน
ให้เด็กได้เรียนรู้ตามธรรมชาติและเป็นไปตามธรรมชาติ
โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและความพร้อมของเด็ก
(https://www.gotoknow.org) ได้รวบรวมทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติ (Natural Unfoldment) ไว้ว่าวิธีนี้ใช้วิธีสอนโดยให้ผู้เรียนพบปะคลุกคลีกับเจ้าของภาษาโดยตรง
เป็นวิธีที่จะต้องลงทุนมาก เพราะจะต้องจ้างครูอังกฤษหรืออเมริกา
หรือครูไทยที่พูดภาษาอังกฤษเก่ง ๆ มาสอน หรือส่งผู้เรียนไปยังประเทศเจ้าของภาษา
การสอนใช้วิธีพูดเป็นหลัก และผู้สอนจะเน้นเรื่องคำศัพท์มาก โดยถือว่าการเรียนภาษานั้นคือการเรียนคำศัพท์
ถ้านักเรียนรู้จักคำศัพท์มากก็ถือว่านักเรียนคนนั้นรู้ภาษาดี
ส่วนไวยากรณ์ที่เรียนนั้นก็เป็นแบบให้คำจำกัดความและกฎเกณฑ์
และเนื้อเรื่องที่เรียนก็มักจะยึดเอาเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นในขณะนั้นเป็นเกณฑ์ เช่น
วันที่อากาศครึ้มฝนตก ครูมักจะคุยกับนักเรียนเรื่องฝนหรือเรื่องอื่นๆ
ที่นักเรียนสนใจอยู่ในขณะนั้น
สรุป
ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติ
(Natural Unfoldment) คือในการเรียนรู้ ควรที่จะให้เด็กเรียนรู้ไปตามธรรมชาติของเด็ก เพราะธรรมชาติเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญ ธรรมชาติของมนุษย์มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเอง
หากได้รับเสรีภาพในการเรียนรู้ มนุษย์ก็จะสามารถพัฒนาตนเองไปตามธรรมชาติ การใช้ของจริงเป็นสื่อในการสอนจะช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดี การจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้เน้นการจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้แก่เด็กจะต้องมีความแตกต่างไปจากการจัดให้ผู้ใหญ่ และควรยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง
ให้เสรีภาพแก่เด็กได้เรียนรู้ตามความต้องการและความสนใจของตนเอง
ในการศึกษาก็ควรที่จะพิจารณาระดับอายุเป็นหลัก
และควรที่จะจัดการศึกษาชั้นอนุบาลแก่เด็กเล็กอายุ 3-5 ปี ให้เด็กได้เล่น เพราะการเล่นเป็นการเรียนรู้ที่สำคัญของเด็ก
และในคนเรามีธรรมชาติปนกันอยู่ 3 ลักษณะคือ
คนสัตว์ คนสังคม คนธรรม ในการเรียนรู้ก็ควรที่จะเกิดจากธรรมชาติ
จากผลการกระทำของเด็กนั้นเองไม่ใช้มาจากในหนังสือ หรือคำพูดจา
ที่มา
ทิศนา แขมมณี. (2553). ศาสตร์การสอน : องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. กรุงเทพฯ : ด่านสุทธาการพิมพ์.
สุรางค์
โคว้ตระกูล. (2545). จิตวิทยาการศึกษา. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
https://www.gotoknow.org [ออนไลน์] เข้าถึงเมื่อที่
11 กรกฎาคม 2561.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น